สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
พ่อแม่คุณ เห็นแก่ตัวมาก เอาลูกสาวเขามาอยู่ด้วย เงินไม่กีหมื่นที่ไหว้ก็เอาคืน ไม่ให้เงินตั้งต้นไม่ค้ำชู ไม่สนับสนุนแล้วยังนับทุกบาททุกสตางค์ คุณก็แย่มากๆ รวมกันเปิดร้านเกมส์ พ่อแม่เอามาช่วยสี่หมื่นรายได้เข้าพ่อแม่ (แฟนคุณคงไม่ได้ออกแค่สองพันหรอก เงินเขาก็ลงมาอ้างว่าธุรกิจครอบครัว ในขณะที่พ่อแม่ และคุณไม่ได้เห็นเมียคุณเป็นครอบครัวด้วยเลย จะเอาแต่ผลประโยชน์) ร้านเกมส์ที่เปิดใหม่ย่อมทำเงินได้เยอะกว่าหลังจากนั้นสามปีรึเปล่า? แล้วยังจะเอาสี่หมื่นคืน สามีก็ไม่สามารถดูแลได้ เงินเคยให้เมียไหมคะ ให้เค้าออกงานน่ะ พูดเลยว่าซวยมากที่มีสามีแบบนี้ ครอบครัวสามีแบบนี้ เป็นเรานะเราจะไม่เอาคนแบบนี้เป็นสามี พ่อแม่สามีแบบนี้เราก็ไม่ปฏิบัติดีด้วยแน่นอน เห็นแก่ตัวทั้งบ้าน
ความคิดเห็นที่ 17
คุณกับแฟนไปกู้เงินกันเปิดร้านเกม โดยที่มีเงินพ่อกับแม่คุณ 40,000 ในนั้นด้วย และรายได้ทั้งหมดเป็นฝั่งครอบครัวของคุณ แฟนคุณไม่มีเงินได้คืนในส่วนนี้ด้วย ต้องจ่ายหนี้ให้อีก
ถัดมาพอแต่งงานกันคุณอยากให้แฟนดูร้านเกมโดยคืนเงิน 40,000 ให้พ่อกับแม่ไป และแฟนคุณต้องเป็นคนจ่ายค่าไฟทั้งหมด เราเข้าใจแบบนี้ถูกมั้ย
ถ้ามานั่งคิดดีๆ เราว่าแฟนคุณเขากำลังน้อยเนื้อต่ำใจนะคะ รักครอบครัวคุณถึงขนาดเป็นหนี้เป็นสินกู้เงินมาเปิดร้านเกม ตอนนั้นเธอคงคิดว่าอนาคตก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วคงไม่เป็นไร แต่พอมาเป็นสะใภ้ดันขอเงิน 40,000 ที่ลงทุนร่วมกันคืน ทั้งที่รายได้ก็ได้ไปเต็มๆแล้ว แถมพวงค่าไฟทั้งบ้าน เธอไม่น่าจะมีเงินเก็บส่วนตัวได้เลย เราว่าเอาเปรียบนะ น่าน้อยใจจริงๆ
ถัดมาพอแต่งงานกันคุณอยากให้แฟนดูร้านเกมโดยคืนเงิน 40,000 ให้พ่อกับแม่ไป และแฟนคุณต้องเป็นคนจ่ายค่าไฟทั้งหมด เราเข้าใจแบบนี้ถูกมั้ย
ถ้ามานั่งคิดดีๆ เราว่าแฟนคุณเขากำลังน้อยเนื้อต่ำใจนะคะ รักครอบครัวคุณถึงขนาดเป็นหนี้เป็นสินกู้เงินมาเปิดร้านเกม ตอนนั้นเธอคงคิดว่าอนาคตก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วคงไม่เป็นไร แต่พอมาเป็นสะใภ้ดันขอเงิน 40,000 ที่ลงทุนร่วมกันคืน ทั้งที่รายได้ก็ได้ไปเต็มๆแล้ว แถมพวงค่าไฟทั้งบ้าน เธอไม่น่าจะมีเงินเก็บส่วนตัวได้เลย เราว่าเอาเปรียบนะ น่าน้อยใจจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 9
แยกประเด็นให้ออกนะคะ การที่คนๆ นึงมีไม่เคยพูด ไม่เคยบ่นแล้วปริปากพูดออกมา แปลว่าเธอทนไม่ไหวแล้ว เธอถึงพูด! จริงๆ แล้วคุณเองรู้ดีอยู่แก่ใจว่าภรรยาตัวเองถูกเอาเปรียบหรือเปล่า
-ภรรยาคุณเป็นคนที่อดทนมากตั้งแต่แต่งงาน ฝ่ายหญิงจ่ายอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่แฟร์เลยนะ การแต่งงานคือคนสองคนพร้อมจะสร้างครอบครัวไปด้วยกันนะคะ(อย่าลืม)!!! ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงหนีไปแล้ว
-การเซ้งกิจการ ถ้าเซ้งให้คนอื่นไปแล้ว รับเงินครบแล้ว รายได้ที่เกิดจากกิจการนั้นควรตกเป็นของผู้เซ้งกิจการแต่เพียงผู้เดียวค่ะ ไม่ถือเป็นธุรกิจของครอบครัว นึกถึงใจคนทำงานบ้างว่าทำงานแทบตายแต่ไม่ได้ใช้เงิน หรือเหนื่อยแทบตายแล้วต้องเอาเงินไปประเคนให้คนอื่น ถ้าเป็นแบบนี้เขาจะทำงานไปเพื่ออะไรคะ??? ทำงานไม่มีค่าแรง ไม่มีเงินเก็บ ใครๆ ก็ท้อค่ะ!!
-เธอไม่ได้ถูกใครเป่าหูค่ะ แต่เธอทนไม่ไหวกับการถูกเอาเปรียบที่มันมากเกินไป ลองมองให้กว้างนะคะ คุณแต่งงานแล้ว คือคุณต้องปกป้อง ดูแลครอบครัวที่อยู่ ณ ปัจจุบันให้ได้ ถ้าคุณเชื่อพ่อแม่ในทุกๆ เรื่องจนไม่ฟังความรู้สึกของภรรยาตัวเองเลย ต่อไปคุณภรรยาก็คงจะขอแยกทาง (ไม่ใช่ว่าการเชื่อฟังพ่อแม่ เป็นสิ่งไม่ดีแต่เรื่องบางเรื่องเราโตพอที่จะคิดกับภรรยาสองคนได้ ควรให้เกียรติภรรยาตัวเองให้มากกว่านี้ค่ะ อย่าลืมนะคะฝ่ายหญิงเขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน การที่เขาแต่งงานมาใช้ชีวิตคู่กับคุณเพราะเขามั่นใจในตัวคุณ เวลามีปัญหาคุณควรจะเข้าใจเขาให้มากกว่านี้นะคะ ไม่ใช่เพียงแค่หาคำปลอบใจ แต่คุณควรแก้ปัญหาค่ะ
ปล.อย่าลืมนะคะว่าคุณแต่งงานแล้ว!! คุณมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว คุณควรจะดูแลปกป้องคนในครอบครัวที่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากก่อนนะคะ การที่ภรรยาคุณพูดออกมานั้นคุณยังพอมีเวลาแก้ตัว แต่ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป สุดท้ายคนที่จะมานั่งเสียใจจะเป็นคุณเอง คิดดูให้ดีนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
-ภรรยาคุณเป็นคนที่อดทนมากตั้งแต่แต่งงาน ฝ่ายหญิงจ่ายอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่แฟร์เลยนะ การแต่งงานคือคนสองคนพร้อมจะสร้างครอบครัวไปด้วยกันนะคะ(อย่าลืม)!!! ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงหนีไปแล้ว
-การเซ้งกิจการ ถ้าเซ้งให้คนอื่นไปแล้ว รับเงินครบแล้ว รายได้ที่เกิดจากกิจการนั้นควรตกเป็นของผู้เซ้งกิจการแต่เพียงผู้เดียวค่ะ ไม่ถือเป็นธุรกิจของครอบครัว นึกถึงใจคนทำงานบ้างว่าทำงานแทบตายแต่ไม่ได้ใช้เงิน หรือเหนื่อยแทบตายแล้วต้องเอาเงินไปประเคนให้คนอื่น ถ้าเป็นแบบนี้เขาจะทำงานไปเพื่ออะไรคะ??? ทำงานไม่มีค่าแรง ไม่มีเงินเก็บ ใครๆ ก็ท้อค่ะ!!
-เธอไม่ได้ถูกใครเป่าหูค่ะ แต่เธอทนไม่ไหวกับการถูกเอาเปรียบที่มันมากเกินไป ลองมองให้กว้างนะคะ คุณแต่งงานแล้ว คือคุณต้องปกป้อง ดูแลครอบครัวที่อยู่ ณ ปัจจุบันให้ได้ ถ้าคุณเชื่อพ่อแม่ในทุกๆ เรื่องจนไม่ฟังความรู้สึกของภรรยาตัวเองเลย ต่อไปคุณภรรยาก็คงจะขอแยกทาง (ไม่ใช่ว่าการเชื่อฟังพ่อแม่ เป็นสิ่งไม่ดีแต่เรื่องบางเรื่องเราโตพอที่จะคิดกับภรรยาสองคนได้ ควรให้เกียรติภรรยาตัวเองให้มากกว่านี้ค่ะ อย่าลืมนะคะฝ่ายหญิงเขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน การที่เขาแต่งงานมาใช้ชีวิตคู่กับคุณเพราะเขามั่นใจในตัวคุณ เวลามีปัญหาคุณควรจะเข้าใจเขาให้มากกว่านี้นะคะ ไม่ใช่เพียงแค่หาคำปลอบใจ แต่คุณควรแก้ปัญหาค่ะ
ปล.อย่าลืมนะคะว่าคุณแต่งงานแล้ว!! คุณมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว คุณควรจะดูแลปกป้องคนในครอบครัวที่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากก่อนนะคะ การที่ภรรยาคุณพูดออกมานั้นคุณยังพอมีเวลาแก้ตัว แต่ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป สุดท้ายคนที่จะมานั่งเสียใจจะเป็นคุณเอง คิดดูให้ดีนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 31
พ่อแม่คุณเขี้ยวมาก ไม่ยอมเสียอะไรสักอย่าง เอ๊ะ....ไม่ใช่ซิ เสียค่ารับไหว้สะใภ้ไปตั้ง 3 พันบาทถ้วน ส่วนคุณ ก็เป็นสามีที่แย่มาก หัวอ่อน
เอาเปรียบภรรยา ไม่แพ้พ่อกับแม่คุณเลย ถามจริง คุณดีใจมั้ย ที่จัดงานแต่งโดยที่บ้านคุณแทบไม่ต้องเสียเงินเลย นอกจาก 3 พันบาทนั้น
และนี่ถ้าภรรยาไม่พูด คุณก็ยังมองอะไรไม่เห็น หรือถ้ามองเห็น สมองก็คงคิดอะไรไม่ออก ว่ามันถูกต้องหรือไม่ ถึงได้มาตั้งคำถามอะไรง่าว ๆ แบบนี้
เราอ่านแล้วโกรธอ่ะ ถ้าแฟนคุณเป็นเพื่อนเรานะ เราจะบอกให้เลิก เพราะดูแล้วเค้ามีความคิดความอ่านมากกว่าฝั่งคุณเยอะ อยู่ไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ
วกมาที่คุณถาม (ด่าไปเยอะละ) จะคิดทำอะไรก็นึกถึงจิตใจของภรรยาให้มาก คุณก็มีหน้าที่ที่ต้องสร้างครอบครัวและดูแลภรรยา
ต่อไปในภายหน้าก็อย่าให้พ่อกับแม่ของคุณมาเอารัดเอาเปรียบภรรยาหรือครอบครัวใหม่ของคุณอีก หวังว่า หลาย ๆ คห.ที่แนะนำไป
จะทำให้คุณได้คิดอะไรขึ้นมาบ้างนะ
เอาเปรียบภรรยา ไม่แพ้พ่อกับแม่คุณเลย ถามจริง คุณดีใจมั้ย ที่จัดงานแต่งโดยที่บ้านคุณแทบไม่ต้องเสียเงินเลย นอกจาก 3 พันบาทนั้น
และนี่ถ้าภรรยาไม่พูด คุณก็ยังมองอะไรไม่เห็น หรือถ้ามองเห็น สมองก็คงคิดอะไรไม่ออก ว่ามันถูกต้องหรือไม่ ถึงได้มาตั้งคำถามอะไรง่าว ๆ แบบนี้
เราอ่านแล้วโกรธอ่ะ ถ้าแฟนคุณเป็นเพื่อนเรานะ เราจะบอกให้เลิก เพราะดูแล้วเค้ามีความคิดความอ่านมากกว่าฝั่งคุณเยอะ อยู่ไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ
วกมาที่คุณถาม (ด่าไปเยอะละ) จะคิดทำอะไรก็นึกถึงจิตใจของภรรยาให้มาก คุณก็มีหน้าที่ที่ต้องสร้างครอบครัวและดูแลภรรยา
ต่อไปในภายหน้าก็อย่าให้พ่อกับแม่ของคุณมาเอารัดเอาเปรียบภรรยาหรือครอบครัวใหม่ของคุณอีก หวังว่า หลาย ๆ คห.ที่แนะนำไป
จะทำให้คุณได้คิดอะไรขึ้นมาบ้างนะ
แสดงความคิดเห็น
พ่อแม่ผมทำอย่างนี้กับเมียผมเอาเปรียบเธอมากไหมครับ..แล้วถ้าคุณเป็นผู้หญิงคุณจะรู้สึกยังไง?
ปัญหามันเกิดหลังจากแต่งงานกันนี่หล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง คือพวกเราเก็บเงินกันได้ 150000 แต่ผมคุยกับเธอไว้ว่าอยากแต่งเธอ 200000 ซึ่งขาดอยู่ 50000 ผมจึงไปคุยกับพ่อและแม่ผม เขาจึงให้เรายืมมา50000 จนครบ แล้ว ทองเราไม่มี พ่อผมเลยให้ยืม ทองมา 6 บาท แต่พอแต่งเสร็จ ต้องเอาเงิน 50000 กับทอง 6 บาทมาคืนท่าน และยังค่ารถตู้เหมา ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก (แฟนผมเป็นคนต่างจังหวัดนะครับเลยต้องเช่ารถพาญาติๆไป) แฟนผมเป็นคนออกเองหมด แล้วค่ารับไหว้ พ่อผมมาคุยกับผมว่าจะให้ 20000 ตอนรับไหว้แต่ให้ผมไปคุยกับแฟนว่าพ่อผมขอคืน 17000 ให้รับไหว้แค่ 3000 แฟนผมก็ไม่ว่าไรแต่เธอก็หน้าเศร้าๆลงนิดนึงผมสังเกตนะ
แล้วพอแต่งเสร็จค่าจัดงานค่าเหล้าเบียทางพ่อแม่แฟนผมเป็นคนจัดการแต่แฟนผมเอาเงินค่าซองกับรับไหว้ไปจ่ายค่าจัดงานเอง
คือสรุปง่ายๆครอบครัวผมแทบไม่ต้องเสียค่าอะไรให้เธอเลย แล้วพอแต่งเสร็จเธอก็ย้ายมาอยู่กับผมที่บ้านพ่อกับแม่ โดยพ่อกับแม่ผมให้แฟนผมเซ้งร้านเกมส์ออนไลน์ต่อจากเขา 40000 เพื่อให้เธอดูแลเพราะผมให้เธอลาออกมาอยู่บ้านหลังแต่งงาน โดยร้านเกมส์แต่ก่อนริเริ่มเมื่อ 3 ปีที่แล้วคือผมกับแฟนไปกู้เงินมาลงทุนโดยพ่อกับแม่ออกให้ 40000 แล้วผมกับแฟนก็ดูแลติดตั้งจ้างช่างทำทุกอย่าง แต่รายได้ทั้งหมดให้พ่อกับแม่ถือว่าเป็นธุรกิจครอบครัว แต่พอหลังแต่งงานผมขอให้พ่อกับแม่ผมเซ้งต่อเธอโดยที่เธอต้องเป็นคนจ่ายค่าไฟทั้งบ้านหมด แล้วค่าเซ้งอีก 40000 โดยรายได้ทั้งหมดตอนนี้เป็นของแฟนผมนะครับแต่เธอต้องจ่ายค่าไฟทั้งบ้านแค่นั้น ที่เธอบ่นๆนี่คือเรื่องตอนแต่งงานมากว่าว่าพ่อกับแม่ผมไม่ให้อะไรเธอเลยทั้งที่เธอดูแลพ่อกับแม่ผมดียิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองซะอีก คือสรุปว่าแฟนผมเธอถูกเอาเปรียบไหมครับ พอดีเธอมาบ่นให้ผมฟัง
คือผมขอความเห็นโหวตหน่อยได้ไหมครับว่าครอบครัวผมเอาเปรียบเธอไหม ผมจะได้พิจารณาตัวเอง เพื่อหาวิธีดูแลจิตใจเธอ แล้วถ้าใครพอมีวิธีแนะนำช่วยผมทีครับ